Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ประโยชน์ของซากดึกดำบรรพ์

Posted By Plookpedia | 26 มิ.ย. 60
6,006 Views

  Favorite

ประโยชน์ของซากดึกดำบรรพ์

      การศึกษาซากดึกดำบรรพ์ช่วยให้เราเรียนรู้ประวัติและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตซึ่งมีการสูญพันธุ์และมีการเกิดขึ้นใหม่มาทดแทนรวมทั้งช่วยให้เราทราบประวัติความเป็นมาของโลกว่ามีเหตุการณ์ใด เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด โดยสรุปอาจกล่าวถึงประโยชน์ของซากดึกดำบรรพ์ได้ดังนี้

๑. ใช้บอกอายุของชั้นหิน

      เนื่องจากสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาและสูญพันธุ์ไปตลอดเวลา  ตารางเวลาทางธรณีวิทยาจึงใช้หลักฐานการเกิดขึ้นและการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเป็นเกณฑ์กำหนดอายุของชั้นหิน  โดยแต่ละมหายุคสิ้นสุดลงด้วยการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกและแต่ละยุคสิ้นสุดโดยมีเหตุการณ์การสูญพันธุ์และการเกิดใหม่ของสิ่งมีชีวิตบางชนิด  โดยบางชนิดมีจำนวนมากและแพร่กระจายอยู่ทั่วไปแต่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกในช่วงระยะเวลาอันสั้นจึงสามารถช่วยกำหนดอายุของชั้นหินได้ดี เราเรียกว่า ซากดึกดำบรรพ์ดัชนี (Index fossil) เช่น ฟิวซูลินิด (fusulinid) ที่ดำรงชีวิตอยู่ในช่วงยุคคาร์บอนิเฟอรัสถึงยุคเพอร์เมียนเท่านั้น

 

ซากดึกดำบรรพ์ในประเทศไทย

 

๒. ใช้บอกลำดับชั้นหิน

      สิ่งมีชีวิตที่มีอายุเก่ากว่าจะตกทับถมอยู่ในหินชั้นล่างและสิ่งมีชีวิตที่มีอายุใหม่กว่าจะตกทับถมอยู่ในหินชั้นบน ดังนั้นเมื่อพบซากดึกดำบรรพ์อายุเก่ากว่าแสดงว่าชั้นหินนั้นเกิดก่อนชั้นหินที่มีซากดึกดำบรรพ์ที่อายุใหม่กว่า

๓. ใช้เทียบเคียงชุดหินต่างๆ

      ชั้นหินที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและมีซากดึกดำบรรพ์ชนิดเดียวกัน  แม้ว่าพบในบริเวณที่ต่างกันก็ถือว่าชั้นหินทั้งสองแหล่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันและเกิดในสภาพแวดล้อมของการสะสมตะกอนลักษณะเดียวกัน

๔. ใช้ประโยชน์ในการค้นหาแหล่งแร่บางชนิด

      เช่น สาหร่ายทะเลที่ฝังอยู่ในหินกักเก็บน้ำมันสามารถช่วยให้เราสำรวจหาปิโตรเลียมได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย

๕. ใช้บอกถิ่นกำเนิดและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ในอดีต

      เช่น การค้นพบซากเอปซึ่งเป็นลิงขนาดใหญ่  ไม่มีหาง ลักษณะคล้ายคลึงกับอุรังอุตังในปัจจุบัน ที่อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา และที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ทำให้สันนิษฐานได้ว่าประเทศไทยอาจเป็นแหล่งกำเนิดและวิวัฒนาการของอุรังอุตังมาตั้งแต่สมัยไมโอซีน เมื่อราว ๑๓ ล้านปีมาแล้ว

 

รอยเท้าของไดโนเสาร์ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
รอยเท้าของไดโนเสาร์ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

 

ร่องรอยแนวทางเดินของไดโนเสาร์ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ร่องรอยแนวทางเดินของไดโนเสาร์ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

 

๖. ใช้บอกสภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศในอดีต

      การศึกษาชนิดของซากดึกดำบรรพ์รวมทั้งชนิดของหินที่มีซากดึกดำบรรพ์  แล้วนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตปัจจุบันทำให้เราสามารถแปลความหมายสภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศในอดีตได้  เนื่องจากสิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ชนิดและสมบัติของตะกอน อุณหภูมิ ปริมาณของออกซิเจน และแสงสว่าง ดังนั้นถ้าพบซากปะการังในหินปูนเราสามารถบอกได้ว่าบริเวณนั้นเคยเป็นทะเลมาก่อน  เนื่องจากหินปูนเป็นหินที่เกิดจากการตกตะกอนทางเคมีของสารละลายคาร์บอเนตซึ่งส่วนใหญ่เกิดในทะเล  ซากปะการังจึงบอกให้ทราบว่าเป็นทะเลน้ำตื้น น้ำใส แสงแดดส่องถึง และมีอุณหภูมิอบอุ่น ทั้งนี้โดยเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อมของปะการังปัจจุบัน

 

รูชอนไชของสัตว์ในชั้นหิน พบที่เขาทะลุ จ.ชุมพร
รูชอนไชของสัตว์ในชั้นหิน พบที่เขาทะลุ จ.ชุมพร

 

สาหร่ายทะเล
สาหร่ายทะเล

 

๗. ใช้บอกการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก

      เนื่องจากเปลือกโลกมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการค้นพบว่าซากไดโนเสาร์ยุคครีเทเชียสหลายชนิดในประเทศไทยเป็นไดโนเสาร์กลุ่มเดียวกับที่พบในประเทศจีน ทำให้สันนิษฐานได้ว่า แผ่นดินฉาน - ไทย ซึ่งเคลื่อนที่มาจากทางใต้ได้ชนกับแผ่นดินอินโดจีนแล้วในช่วงปลายมหายุคมีโซโซอิก

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow